ผู้เขียน หัวข้อ: ทันตแพทย์เผย 3 วิธีผิด ๆ ในการใช้น้ำยาบ้วนปาก แนะควรอมในปากกี่วินาที  (อ่าน 3587 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 10186
    • ดูรายละเอียด
ทันตแพทย์เผย 3 วิธีผิด ๆ ในการใช้น้ำยาบ้วนปาก อย่าใช้บ่อยเกินไป พร้อมแนะนำควรใช้ตอนไหนและอมในปากกี่วินาที

เพื่อให้ลมหายใจสดชื่นและได้ผลในการทำความสะอาดฟัน หลายคนคุ้นเคยกับการใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดปากหลังรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของอีทีทูเดย์ ทันตแพทย์เฉิน จุนหลงกล่าวว่าความถี่ในการใช้น้ำยาบ้วนปากไม่ควรสูงเกินไป

พร้อมทั้งแนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากวันละครั้งเท่านั้น เพราะหากใช้น้ำยาบ้วนปากวันละ 2 - 3 ครั้ง อาจกระตุ้นเยื่อบุในช่องปากมากเกินไปจนทำให้เกิดรอยแดง บวม และไม่สบายเฉพาะที่ ซึ่งจากสถิติของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประชาชนมีพฤติกรรมการใช้น้ำยาบ้วนปากผิดวิธี 3 ประการ ได้แก่

ใช้น้ำยาบ้วนปากแทนแปรงสีฟันและไหมขัดฟัน
บ้วนปากด้วยน้ำหลังจากใช้น้ำยาบ้วนปาก
ใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยเกินไป

ดร. เฉิน จุนหลงเน้นย้ำว่า น้ำยาบ้วนปากทำหน้าที่เป็นเครื่องฆ่าเชื้อและระงับกลิ่นปาก แต่มีผลจำกัดในการทำความสะอาดฟัน หากทำความสะอาดฟันไม่ดีและใช้แค่น้ำยาบ้วนปากเท่านั้น สารตกค้างจะยังคงอยู่ในช่องว่างระหว่างฟันและฟัน แถมยังมีกลิ่นปากอยู่อีกระยะหนึ่ง

การแปรงฟันเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำความสะอาดฟัน มีเพียงแปรงสีฟันเท่านั้นที่สามารถทำความสะอาดเศษอาหารในร่องเหงือกได้ หากไม่แปรงฟันหลังรับประทานอาหารและใช้แค่น้ำยาบ้วนปากก็เหมือนกับการฉีดน้ำหอมโดยไม่ต้องอาบน้ำ

ทันตแพทย์ เฉิน จุนหลง กล่าวว่า น้ำยาบ้วนปากเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้ดีนัก ต้องปฏิบัติตาม 3 ขั้นตอนต่อไปนี้ในการทำความสะอาดฟัน

-ใช้ไหมขัดฟันขจัดเศษอาหารออกจากซอกฟัน
-ใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดพื้นผิวฟันและระหว่างฟัน
-ใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อขจัดแบคทีเรียที่อาจค้างอยู่ในช่องว่าง

ทันตแพทย์ เฉิน จุนหลง แนะนำว่าเมื่อใช้น้ำยาบ้วนปากให้อมไว้ในปากอย่างน้อย 30 วินาทีถึง 1 นาที รวมถึงอาจขยายออกไปอีก 2 ถึง 3 นาทีหากไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หลังจากบ้วนน้ำยาบ้วนปากออกแล้ว อย่าบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าเพื่อหลีกเลี่ยงการลดฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย หากเวลาแนะนำให้รอครึ่งชั่วโมงหลังแปรงฟันเพื่อให้ยาสีฟันออกฤทธิ์ จากนั้นใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

เมื่อซื้อน้ำยาบ้วนปากไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใดก็ตามจะต้องอ่านฉลาก ทำความเข้าใจส่วนผสม และวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ยิ่งไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็จะลดการระคายเคืองปากน้อยกว่า


Khaosod
16กค2567