สาระของ พรบ. คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ฉบับ NGO นี้
1.
สถานพยาบาล ที่ถูกฟ้องร้องได้
รพ. ของรัฐทุกแห่ง ทุกกระทรวง ทบวงกรม
รพ. เอกชน คลินิกเอกชน
สถานพยาบาล สถานีอนามัย
( แลป และร้านขายยา น่าจะอยู่ในข่ายด้วย)
2.
ผู้ให้บริการที่ถูกฟ้องร้องได้
แพทย์(รวมแผนไทยด้วย) พยาบาล ทันตแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักเทคนิคการแพทย์ เภสัชกร
และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่น
3.
คณะกรรมการ มี 21 คน
ไม่มีตัวแทนวิชาชีพแม้แต่คนเดียว มี NGO 8 คน พวกเรา(สถานพยาบาล) 3 คน และ
ไม้ประดับ 6 คน และ เลขา คือ อธิบดี และ จ.น.ท. 3 คน
4.
การตัดสิน ชี้ขาดโดยเสียงข้างมาก ไม่เอาสาระวิชาการมาร่วมพิจารณา
5.
กองทุนเงินชดเชย มาจาก
โอนมาจาก ม. 41 ของ สปสช.
รวมกับ สถานพยาบาล(ทุกรพ. ทุกคลินิค)จ่ายสมทบ (เริ่มจาก 5 บาท / ผู้ป่วยนอก/ปี ผู้ป่วยใน ? แต่จะเพิ่มขึ้นอีกถ้าถูกร้องบ่อย)
และเงินอุดหนุนจากรัฐ
ซึ่งคาดว่ากองทุนนี้อยู่ในระดับหลายพันล้านต่อปี
(นี่อาจเป็น เหตุผลหนึ่งของการผลักดันให้เกิดพรบ.ฉบับนี้ ผลประโยขน์ของคนบางกลุ่ม)
บริหารและใช้จ่ายโดย คณะกรรมการ คือ รัฐมนตรี กับ NGO ใน 21 คน นั่นแหละ
(มีอนุกรรมการอีก อย่างน้อย 3 คณะ) โดยใช้จ่ายเป็นค่าบริหาร เบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทาง ค่าประชุม และอื่นๆ(ที่ไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ และชดเชยให้ผู้ร้อง) ได้ถึง 10%ของกองทุน/ปี(อาจถึง 100 ล้าน ถ้ากองทุนมีเป็น 1000 ล้าน)
6. ผู้เสียหาย ขอเงินชดเชยได้ ใน 3 ปี นับแต่วันที่รู้ และขอได้อีกหลังจากนั้นถ้าเกิดอาการใหม่ ไม่จำกัดครั้งใน10 ปี
7. จ่ายเงินชดเชย
ขั้น 1 จ่ายใน 7 วัน โดยไม่พิสูจน์ถูกผิด (50,000 120,000 200,000บาท)
ขั้น 2 จ่ายใน 30 วันหลังจากพิสูจน์ ถูกผิด และตัดสิน ได้อีก 5 – 10 เท่าของขั้น 1
8. ถ้าผู้เสียหายพอใจ รับเงิน และทำสัญญาประนีประนอม
ถ้าไม่พอใจ มี 2 ทางคือ อุทธรณ์ขอเงินเพิ่มใน 30วัน
หรือ ฟ้องคดีอาญา แล้วค่อยขอรับเงิน นี้ภายหลังได้
9. ฟ้องคดีอาญาได้ด้วย(ถ้าอยากฟ้อง)
ถ้าชนะ - ผู้ร้องจะได้ (แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล)
1. เอาผู้บริการเข้าคุก
2. ได้เงินสินไหมทดแทนทางแพ่ง
- ผู้ถูกร้องจะได้ (แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล ว่าจะลงโทษ หรือไม่ก็ได้)
1. ติดคุก
2. จ่ายเงินสินไหมทดแทนทางแพ่ง จำนวนมาก
3. ถูกยึดใบประกอบวิชาชีพ(ทั้ง 7 วิชาชีพ) ทำงานไม่ได้
4. ถูกให้ออกจากราชการ ผิดวินัยร้ายแรง ไม่มีบำเหน็จบำนาญ
5. เข้ารับราชการอีกไม่ได้ เพราะเคยถูกตัดสินคดีอาญา
(ข้อ 3, 4, และ 5 มีผล อัตโนมัติ จากการถูกตัดสินคดีอาญา
ผู้แพ้คดี และครอบครัวจากการถูกฟ้องคดีอาญาเพียงครั้งเดียว ก็ล้มละลายทั้งชีวิต)
10. เป็นการรวมศูนย์อำนาจในการพิจารณา และการจ่ายเงินแต่เพียงกลุ่มเดียว เดิมเป็นอำนาจของกรรมการของแต่ละจังหวัด(76 จังหวัด) ของแต่ละสถาบัน(โรงเรียนแพทย์) ของแต่ละแห่ง(เอกชน)
*ประเทศต่างๆ ในโลกนี้ ไม่มีฟ้องคดีอาญาผู้ให้บริการการรักษาผู้ป่วย มีเพียงฟ้องแพ่งเท่านั้น*
พ.ร.บ. ฉบับเต็ม เข้าดูได้ใน web แพทย์สภา www. Moph.go.th หรือ
www.tmc.or.thแล้วจะให้ พรบ.ฉบับนี้ผ่านสภาได้หรือ?